
04.02.2556
แมว
ข้อแนะนำสำหรับการดูแลสุขภาพของแมว
แบ่งปัน:
Loading...
นอกจากอาหารที่ดีแล้ว การเลี้ยงดูแมวให้มีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง มีคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ แบ่งออกเป็น 3 ส่วนสำคัญ ซึ่งได้แก่
ส่วนที่ 1 ตัวแมว
- การทำวัคซีนและการถ่ายพยาธิตามกำหนดของสัตวแพทย์ทุกๆ ปี
- การตรวจสุขภาพจากเลือดและจากปัสสาวะของแมว อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง และอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง สำหรับแมวที่มีอายุมากกว่า 5 ปี หรือแมวที่มีโรคประจำตัว
- แมวที่ทำหมันแล้ว ควรมีการควบคุมปริมาณการกินอาหารให้เหมาะสมกับกิจกรรมในแต่ละวัน เพื่อไม่ให้แมวมีน้ำหนักมากเกินไป ซึ่งจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ ได้ เช่น โรคนิ่ว โรคเบาหวาน เป็นต้น
- ควรมีการป้องกันพยาธิภายนอก เช่น ตัวหมัด ตัวไร อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะแมวที่เลี้ยงปล่อยอิสระ
ส่วนที่ 2 อาหารและน้ำ
- ปริมาณการให้อาหารแมวขึ้นอยู่กับกิจกรรมในแต่ละวัน ตามความเหมาะสมของความต้องการพลังงานของแมว โดยสามารถประเมินได้จากอายุ น้ำหนักของแมว ซึ่งสามารถเทียบเคียงได้จากฉลากของถุงอาหารแมว
- การเลี้ยงแมวหลายๆ ตัว แนะนำการให้อาหารโดยแยกอย่างเป็นสัดส่วนของแมวแต่ละตัว ทั้งนี้เพื่อให้แมวแต่ละตัวได้รับอาหารอย่างเพียงพอ ทั้งยังเป็นการป้องกันโรคติดต่อที่เกิดจากการกินของแมวแต่ละตัวได้อีกด้วย
- จำนวนมื้ออาหารของแมวขึ้นอยู่กับความสะดวกของผู้เลี้ยง อายุ และสุขภาพของแมว ไม่แนะนำให้ทิ้งอาหารเอาไว้ตลอดเวลา เพื่อลดการปนเปื้อนอาหารจากสิ่งแวดล้อม
- แมวชอบกินน้ำที่สะอาดและใหม่อยู่เสมอ ดังนั้นควรเปลี่ยนถ่ายน้ำให้บ่อยครั้ง ทำความสะอาดถาดน้ำเป็นประจำ และควรที่จะวางถาดน้ำไว้หลายๆ จุด ทั้งบริเวณที่กินอาหาร บริเวณที่เล่น และบริเวณที่นอน
- แมวที่กินอาหารเม็ดและกินน้ำได้น้อยในแต่ละวัน วิธีที่จะช่วยเพิ่มปริมาณการกินน้ำอย่างง่ายๆ ก็คือ การเพิ่มน้ำอุ่นลงในอาหาร การเพิ่มอาหารเปียก การเพิ่มอาหารประป๋อง อย่างไรก็ตามการปรับเปลี่ยนอาหารจากเดิม ควรจะค่อยๆ ปรับเปลี่ยน เพื่อลดโอกาสการเกิดท้องเสียด้วย
- บริเวณที่วางถาดอาหาร ควรเป็นบริเวณที่สะอาดและใกล้กับบริเวณที่วางถาดน้ำ สิ่งสำคัญคือ ควรอยู่ห่างจากถาดทรายและบริเวณที่แมวขับถ่าย
ส่วนที่ 3 การจัดการสิ่งแวดล้อม
- ถาดทรายและทรายแมว เป็นอุปกรณ์สำคัญที่ขาดไม่ได้สำหรับการขับถ่ายของแมว ควรทำความสะอาดทรายแมวอย่างสม่ำเสมอ และวางถาดทรายอย่างน้อย 1 หรือ 2 จุด
- การเลี้ยงแมวในบริเวณพื้นที่จำกัด เช่น เลี้ยงแบบขังกรง มักส่งผลทำให้แมวมีความเครียดอยู่ตลอดเวลา วิธีการช่วยลดความเครียดทำได้ โดยการเคลื่อยย้ายกรงออกมารับแสงแดดยามเช้าในสถานที่ที่มีแสงส่องถึง และมีการระบายอากาศที่ดี
- การเลี้ยงแมวร่วมกับสัตว์เลี้ยงชนิดอื่นๆ ควรได้รับคำแนะนำเพิ่มเติมจากสัตวแพทย์ เพื่อลดความเสี่ยงจากโรคติดต่อต่าง ๆ
“ ปริมาณน้ำบริสุทธิ์ 210 มิลลิลิตร ต่อวัน ต่อแมว 1 ตัว ”