การมีเจ้าแมวเหมียวมาไว้เป็นเพื่อนสักตัว สามารถเติมเต็มความสดใสให้กับใครหลายคน
25.04.2567
อาหารสัตว์

เลือกสูตรที่ใช่ เปลี่ยนมาให้การดูแลเหมียวที่ดีกว่ากับ อาหารแมว Me-O Gold

แบ่งปัน:
Loading...

การมีเจ้าแมวเหมียวมาไว้เป็นเพื่อนสักตัว สามารถเติมเต็มความสดใสให้กับใครหลายคน เพราะความน่ารัก แสนซน ขี้อ้อน และความเป็นตัวของตัวเองสูงในบางครั้ง นับเป็นเสน่ห์ของน้องแมวจนทำให้เราหลงรัก และพยายามสรรหาสิ่งที่ดีที่สุดให้อยู่เสมอ อย่างเรื่องอาหารการกิน ทาสแมวอย่างเราๆ ส่วนใหญ่ก็จะรู้กันอยู่แล้วว่า แมวเป็นสัตว์ที่มีระบบในร่างกายที่ละเอียดอ่อนและซับซ้อน ดังนั้นการเลือกอาหารให้กับเจ้าเหมียวของเราจึงเป็นเรื่องที่ต้องคัดสรรกันไม่ใช่น้อย ทาง PCG จึงจะมาแนะนำอาหารแมวจาก Me-O Gold ที่เข้าใจและได้พัฒนาสูตรต่างๆ ตามความเหมาะสมของน้องแมวแต่ละตัว เพื่อการดูแลที่ดีกว่ากับคุณภาพระดับพรีเมียม พร้อมคำแนะนำการเปลี่ยนอาหารใหม่ให้กับเจ้าเหมียวอย่างถูกวิธีด้วย

 

จำเป็นต้องเปลี่ยนสูตรอาหารให้แมวด้วยหรือ?

 

สำหรับหลายคนอาจจะยังไม่รู้ หรือเกิดคำถามนี้อยู่บ่อยๆ ว่าแมวของเราจำเป็นจะต้องเปลี่ยนสูตรอาหารด้วยหรือ ในเมื่อน้องแมวก็ชอบกินอาหารเดิมมาตั้งแต่ตอนเล็กๆ ก็ต้องตอบเลยว่า จำเป็นจะต้องเปลี่ยน นั่นก็เพราะว่าอาหารเม็ดแต่ละสูตรนั้นผลิตขึ้นตามโภชนาการของแมวแต่ละช่วงวัย เพื่อให้แมวได้รับสารอาหารที่เพียงพอและเหมาะสมนั่นเอง และในบางสูตรก็เป็นสูตรเฉพาะสำหรับแมวที่มี lifestyle ที่แตกต่างกันด้วย

สรุปอย่างง่ายๆ ก็คือ เราควรเปลี่ยนสูตรอาหารให้เข้ากับแมวตามช่วงวัย ตามสายพันธุ์ และตามการใช้ชีวิตของแมว เพื่อให้แมวของเราได้รับสารอาหาร และโภชนาการที่เหมาะสมที่สุด ทั้งนี้ยังช่วยป้องกันไม่ให้แมวของเราขาดสารอาหารจนเกิดปัญหาสุขภาพในภายหลังได้นั่นเอง เพราะฉะนั้นเรื่องสูตรอาหารที่เหมาะสมจึงเป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้  

 

การเปลี่ยนอาหารให้เจ้าเหมียว ต้องค่อยเป็นค่อยไป

 

เมื่อถึงเวลาที่จะต้องปรับเปลี่ยนสูตรอาหารให้กับเจ้าเหมียว ไม่ควรเปลี่ยนทันที แต่จะต้องทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพราะแมวมักจะเกิดอาการไม่ไว้ใจกับอาหารใหม่ ทำให้แมวไม่กินอาหารนั้นๆ และในบางตัวอาจเข้าขั้นเป็นโรคกลัวของใหม่ หรือ Neophobia ซึ่งเป็นพฤติกรรมการป้องกันการกินอาหารที่เป็นพิษหรืออาหารปนเปื้อนนั่นเอง เป็นเหตุผลที่อธิบายว่าทำไมเราจึงควรเพิ่มสัดส่วนอาหารใหม่ทีละน้อยอย่างช้าๆ ก็เพื่อเป็นการลดการสร้างความเครียด รวมถึงพฤติกรรมการปฏิเสธอาหารใหม่นั่นเอง ดังนั้นเราจึงมีวิธีการเปลี่ยนอาหารให้กับน้องแมวอย่างถูกวิธีมาฝากกัน ดังนี้

 

วิธีการเปลี่ยนอาหารใหม่ให้เหมียวแฮปปี้

 

หลักการสำคัญเลยคือ การให้อาหารใหม่ทีละน้อยๆ โดยผสมกับอาหารเดิมไปก่อนเป็นเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์ ถือเป็นวิธีที่ดีที่สุดเพื่อช่วยหลีกเลี่ยงอาการปวดท้อง โรคกลัวของใหม่ และความวิตกกังวลอื่นๆ ให้กับแมวของเราได้ ซึ่งการผสมอาหารใหม่ทีละน้อยแล้วค่อยๆ เพิ่มอัตราส่วนจนแมวคุ้นเคยและสามารถกินอาหารสูตรใหม่ได้ควรเริ่มด้วย

  • วันที่ 1 และ 2 - อาหารเดิม 75% ผสมกับอาหารใหม่ 25%
  • วันที่ 3 และ 4 - อาหารเดิม 50% ผสมกับอาหารใหม่ 50%
  • วันที่ 5 และ 6 - อาหารเดิม 25% ผสมกับอาหารใหม่ 75%
  • วันที่ 7 - อาหารใหม่ 100%

ต่อไปสำคัญเลยว่า ควรรักษากิจวัตรการให้อาหารตามปกติให้กับเจ้าเหมียว ทั้งเรื่องเวลาให้อาหารและสภาพแวดล้อมการกินแบบเดิมด้วยนะ เพื่อให้แมวของเราผ่อนคลายมากที่สุดในกระบวนการเปลี่ยนแปลง

 

มาเลือกสูตรที่ใช่ เพื่อการดูแลเหมียวที่ดีกว่า กับอาหารแมว Me-O Gold กันเลย!

 

1. Me-O Gold ลูกแมว

Me-O Gold ลูกแมว

การเริ่มต้นที่ดีเป็นสิ่งสำคัญ สำหรับเจ้าเหมียวตัวน้อยอายุตั้งแต่ 1 - 12 เดือนเป็นช่วงเวลาที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ Me-O Gold สูตรลูกแมว ได้ออกแบบมาเพื่อให้ลูกแมวมีพัฒนาการสมวัย เหมาะกับลูกแมวทุกสายพันธุ์ เพราะผลิตจากเนื้อไก่ซึ่งเป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพสูงในสัดส่วนไม่น้อยกว่า 32% มาพร้อมสารอาหารจำเป็นครบถ้วนที่ลูกแมวต้องการ ทั้งสารที่พบได้ในนมแม่อย่างพรีไบโอติก (GOS) และบีทพัลพ์ช่วยในระบบทางเดินอาหาร พร้อมทั้งเสริมสร้างการพัฒนาสมองอย่างสมวัยด้วย DHA จากน้ำมันปลาทะเล รวมทั้งช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงด้วยซีลีเนียมและวิตามินอี รวมทั้งยังมีกรดอะมิโนเสริมจากทอรีน ที่แมวสังเคราะห์เองไม่ได้ ที่จะช่วยในการมองเห็นและบำรุงสายตา นอกจากนี้ยังมีแคลเซียม ฟอสฟอรัส และวิตามินดีช่วยให้กระดูกและฟันแข็งแรง พร้อมให้ขนสวยด้วยโอเมก้า 3 โอเมก้า 6 สังกะสีอินทรีย์ และไบโอติน 

2. Me-O Gold ฟิตแอนด์เฟิร์ม

Me-O Gold ฟิตแอนด์เฟิร์ม

อาหารแมวมีโอ โกลด์ สูตรที่เหมาะสำหรับแมวโตอายุ 1 ปีขึ้นไปที่มีกิจกรรมน้อย จึงต้องการความสมดุลของสารอาหาร เพื่อป้องกันการเกิดภาวะน้ำหนักเกิน ที่อาจส่งผลต่อสุขภาพได้ Me-O Gold ฟิตแอนด์เฟิร์ม จึงพัฒนาสูตรขึ้นด้วยแอล-คาร์นิทีน ซึ่งเป็นตัวช่วยควบคุมให้น้องแมวมีสัดส่วนที่เหมาะสม พร้อมเสริมด้วยโปรตีนจากเนื้อไก่ที่จำเป็น และยังมีโอเมก้า 3 , 6 ไบโอติน และสังกะสี ช่วยให้ผิวหนังมีสุขภาพดีขนสวยเงางาม รวมถึงบีทพัลพ์ที่ช่วยส่งเสริมระบบการย่อยอาหาร

3. Me-O Gold แมวเปอร์เซีย

Me-O Gold แมวเปอร์เซีย

แมวเปอร์เซียเป็นสายพันธ์ุที่ได้รับความนิยมอย่างมาก  โดยต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ เพราะขนที่ยาวและหนาฟูทำให้มีพฤติกรรมเลียขนอยู่เป็นประจำ จึงอาจทำให้เกิดปัญหาก้อนขนอุดตันได้ง่ายกว่าแมวสายพันธุ์อื่นๆ อาหารแมวมีโอ โกลด์ จึงคิดสูตรสำหรับแมวเปอร์เซียโดยเฉพาะ เพราะเสริมเพาเดอร์เซลลูโลส หรือเยื่อใยธรรมชาติเข้าไป เพื่อป้องกันการเกิดก้อนขนอุดตันในระบบทางเดินอาหารและขับก้อนขนให้ออกมาพร้อมกับมูล รวมถึงลดการเกิดขนร่วงที่เสี่ยงต่อโรคผิวหนัง จากโปรตีนในเนื้อไก่และพรีไบโอติกเพิ่มการย่อยและการดูดซึมสารอาหารได้ดีขึ้น พร้อมโอเมก้า 3, 6 ไบโอติน และสังกะสีที่ช่วยบำรุงขนให้เงางามและบำรุงผิวพรรณของแมวเปอร์เซียได้อย่างดี

4. Me-O Gold แมวเลี้ยงในบ้าน

Me-O Gold แมวเลี้ยงในบ้าน

อาหารแมวเลี้ยงในบ้านที่หลายคนเลือก คือ “มีโอ โกลด์ แมวเลี้ยงในบ้าน” เพราะเป็นสูตรที่คิดค้นเพื่อน้องแมวที่เลี้ยงในบ้านแบบระบบปิดโดยเฉพาะ เนื่องจากแมวที่อยู่แต่ในบ้านจะมีกิจกรรมที่จำกัดมากกว่าแมวทั่วไปข้างนอกบ้าน น้องแมวจึงต้องการสารอาหารบางอย่างมากกว่าหรือน้อยกว่าปกติ เพื่อรักษาน้ำหนักและสัดส่วนที่เหมาะสมอยู่เสมอ ในสูตรนี้จึงมีส่วนผสมของสารสกัดยัคคาที่ช่วยทำให้มูลของน้องไม่ส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วห้อง อีกทั้งยังมีพรีไบโอติกซึ่งดีต่อระบบทางเดินอาหาร พร้อมทั้งมีเส้นใยเซลลูโลส และโซเดียม เฮกซะเมทตาฟอสเฟท เพื่อดูแลสุขภาพเหงือกและฟันให้กับน้องแมวอีกด้วย

เมื่อรู้วิธีการเปลี่ยนสูตรอาหารอย่างถูกต้องเหมาะสมกันแล้ว พ่อแม่น้องแมวมาเลือกอาหารแมว Me-O Gold สูตรที่ใช่ให้กับเจ้าเหมียวที่บ้านกัน โดยเลือกได้จากทั้ง 4 สูตรที่มาแนะนำกันเลย เพื่อการดูแลที่ดีกว่ากับอาหารระดับเกรดพรีเมียมแบบนี้ รับรองว่าเจ้าเหมียวจะมีสุขภาพที่ดีสมวัย เหมาะกับกิจกรรมของแต่ละตัวกันอย่างแน่นอน หากใครที่สนใจอาหารแมว Me-O Gold ตามความต้องการของเจ้าเหมียวก็สามารถสั่งซื้อได้ทางช่องทางออนไลน์บนเว็บไซต์ https://pcgshoponline.com/ หรือทาง Shopee และ Lazada กันได้เลย

ข้อมูลสัตว์เลี้ยงที่เกี่ยวข้อง