เข้าสู่ฤดูฝนแล้ว ดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะ นอกจากจะดูแลสุภาพของตัวเองกันแล้ว ช่วงนี้ฤดูฝนนี้อาจจะต้องใส่ใจสัตว์เลี้ยงแสนรักของคุณเป็นพิเศษด้วย โรคยอดฮิตที่มาพร้อมกับช่วงฤดูฝนที่สำคัญต่อคนและสัตว์เลี้ยงคือ โรคฉี่หนู หรือ โรค Leptospirosis
โรคฉี่หนู เป็นโรคจากการติดเชื้อแบคทีเรียในกลุ่ม Leptospira ซึ่งมีขนาดเล็กมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น ต้องการความชื้น ออกซิเจน สภาพกรด ด่างเป็นกลาง (pH = 7.0 -7.4) และอุณหภูมิที่เหมาะสม 28-30 องศาเซลเซียสปริมาณเชื้อที่ได้รับ และทั้งนี้โรคนี้ยังโรคของสัตว์ที่สามารถติดต่อมาสู่คนได้ (Zoonotic Disease) โดยแหล่งรังโรคคือ หนูบ้าน โดยเชื้อจะอยู่ที่ไต และแพร่เชื้อผ่านออกมาทางปัสสาวะเป็นหลัก ในปัจจุบันเชื้อ Leptospira มีหลาย species แต่จะแบ่งออกเป็น 2 complex คือ Interrogans complex ทำให้เกิดโรคทั้งในคนและในสัตว์ และ Biflexa complex ไม่ทำให้เกิดโรค
การติดต่อสำคัญของเชื้อโรคฉี่หนูนี้ ติดต่อได้โดยการสัมผัสกับเชื้อโรคโดยตรง โดยเชื้อ Leptospira จะผ่านทางบาดแผลเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งการติดต่อลักษณะนี้มักเกิดขึ้นบ่อยในคนที่ประกอบอาชีพทำไร่ ทำนา ในเวลาหน้าฝน ชอบเดินหรือแช่น้ำขังโดยไม่สวมรองเท้าให้มิดชิด และมีรายงานการติดโรคจากการกินเชื้อโรคเข้าไป มักพบการติดต่อลักษณะนี้ในสุนัขแบะแมว โดยอาการทั่วไปในคนและสัตว์จะคล้ายกัน โดยอาการเริ่มแรกจะมีลักษณะเป็นไข้ขึ้นๆลงๆ คล้ายไข้หวัด ในคนจะมีอาการครั่นเนื้อครั่นตัว ปวดกล้ามเนื้อตามตัว ถ้าเชื้อไปเดินทางไปถึงตัวไต จะมีอาการทางระบบทางเดินปัสสาวะ เช่น ปัสสาวะเป็นเลือด ไตวายตามมา พบได้ทั้งในคนและในสัตว์ อาจมีอาการทางระบบอื่นได้อีกเช่น เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ตับวาย ดีซ่าน เป็นต้นและหากไม่ได้รับการรักษาที่ทันท่วงนี้อาจจะทำให้เสียชีวิตตามมาได้ โรคนี้สามารถรักษาให้หายได้หากได้รับการรักษาทันท่วงที ดังนั้น หากคนหรือสัตว์เลี้ยงของท่านมีประวัติข้องเกี่ยวกับการสัมผัสหนู หรือ เดินย่ำน้ำที่สกปรก และมีอาการไข้ขึ้นๆลงๆ คล้ายเป็นหวัด ต้องรีบไปพบแพทย์ หากเป็นสัตว์เลี้ยงควรพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจดูอาการและวินิจฉัยโรค จะได้รักษาโรคได้ทันเวลา
เมื่อเรารู้เกี่ยวกับตัวโรค การติดต่อ และอาการของโรคฉี่หนูแล้ว มาถึงวิธีป้องกันการเกิดโรค สำหรับในสุนัขมีวัคซีนป้องกันแต่ไม่ครอบคลุมเชื้อทั้งหมดเนื่องจากเชื้อนี้มีหลายสายพันธุ์ ส่วนสำหรับการป้องกันโรคในคน หากต้องเข้าไปในพื้นที่เสี่ยง เช่นบริเวณที่มีน้ำขัง ควรใส่รองเท้าบูทให้มิดชิด หรือ หากต้องสัมผัสหนูบ้านโดยตรงให้สวมถุงมือทุกครั้ง เห็นไหมคะว่าการป้องกันง่ายเพียงนิดเดียว ป้องกันไว้ดีกว่าสายเกินแก้
ข้อมูลจาก : www.boe.moph.go.th
รูปภาพจาก : www.doggiesonboard.com